หลักสูตรแพทย์แผนใจ เข้าใจโลกและชีวิตจิตใจ โดยอาศัยความรู้ของพระพุทธองค์
ปัจจุบัน โรคทางกาย ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์นั้น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ทางการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้า สามารถช่วยรักษาเยียวยาได้เป็นอย่างดี ทำให้ปัญหาทางกายน้อยลงมาก มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ยืนยาวขึ้น
แม้ปัญหาทางกายน้อยลง แต่กลับพบว่าปัญหาทางจิตใจของมนุษย์กลับมีมากขึ้น ทั้งความเครียด ความวิตกกังวล ความเศร้าเสียใจ ความโกรธ ฯลฯ โดยสาเหตุอาจเกิดจากวิถีชีวิตในปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันกันมากขึ้น ทำให้การไม่ได้ตามที่ต้องการมีโอกาสมากที่จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในวิถีชีวิตดังกล่าวนี้ หากบุคคลใดมีความรู้ความเข้าใจสัจธรรมของโลกและชีวิตจิตใจเพียงพอ ก็จะสามารถอยู่ในโลกที่วุ่นวายนี้ อย่างมีความสุขได้ ไม่เกิดปัญหาแต่อย่างใด อุปมาเหมือน ลิ้นงูที่อยู่ในปากงู ได้โดยไม่ได้รับพิษแต่อย่างใด
พระพุทธองค์เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในองค์ความรู้ที่จะพัฒนาคนให้มีคุณสมบัติที่เข้าใจโลกและชีวิตจิตใจได้ อันนำมาซึ่งการไร้ทุกข์ พบความสุขเย็น โดยความรู้ของพระพุทธองค์นี้ ได้สืบต่อมา อย่างยาวนาน ทนต่อการพิสูจน์ มาตลอดกว่า ๒๖๐๐ ปี และยังคงมีผู้ขวนขวายที่จะช่วยกันสืบต่อ ต่อไป
ทางกลุ่มอยู่เย็น เป็นประโยชน์ เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับประโยชน์จากความรู้ดังกล่าวนี้ เป็นที่ประจักษ์แก่ตนเอง จึงมีฉันทะ ขวนขวาย ในการที่จะเผยแผ่ความรู้ของพระพุทธองค์นี้ให้คงอยู่ต่อไป โดยได้นำความรู้ดังกล่าวมาเรียบเรียงเป็นหลักสูตร ชื่อว่า “แพทย์แผนใจ”
เมื่อผู้เรียน ได้เข้าร่วมศึกษาจนครบหลักสูตร และได้ทำการบ้าน โดยทดลองนำความรู้ที่เรียนไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ตามที่วางไว้ระหว่างการศึกษาแล้ว คาดหวังว่าผู้เรียนจะมีความสามารถ ในการจัดการกับความไม่สบายใจแบบต่างๆ ในจิตใจของตนให้หายไปได้ โดยไม่ยาก แม้ในชีวิตประจำวันยังต้อง เกี่ยวข้องกับความวุ่นวายต่างๆ ของโลก ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอก็ตาม แต่ผู้เรียนก็ยังสามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุข สงบเย็นได้
หลักสูตรแพทย์แผนใจ ประกอบด้วยกิจกรรมทั้งปริยัติและปฏิบัติควบคู่กันเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจธรรมของพระพุทธองค์ได้อย่างลึกซึ้งและสามารถนำไปใช้ได้จริง โดยมุ่งหวังผลสำเร็จเป็นสองขั้น คือ
หมอดูใจ ๑ ผู้เรียนสามารถดูแลจิตใจตนเองไม่ให้เป็นทุกข์และมีความสุขเย็นได้ โดยผู้เรียนจะต้องผ่านการเรียนปริยัติ ๒ กิจกรรม คือ ธรรมโฆษณ์ศึกษา ๑๐๑ และ ธรรมโฆษณ์ศึกษา ๑๐๒ รวมถึงการเรียนรู้อานาปานสติภาวนา ผ่านกิจกรรม อานาปานสติจากพระโอษฐ์ และ อานาปานสติภาวนา จำนวน ๒ ครั้ง (ครั้งที่ ๑ และ ๒) และผ่านกระบวนการเรียนรู้กับกิจกรรม เข้าถึงใจสร้างสุข รวมเวลาทั้งสิ้น ๔๑ ชั่วโมง
หมอดูใจ ๒ จะเป็นการเรียนรู้และการปฏิบัติที่ลึกซึ้ง ละเอียด และเข้มข้นขึ้น ผู้เรียนต้องผ่านกิจกรรม ธรรมโฆษณ์ศึกษา ๑๐๓, ๑๐๔ และ ๑๐๕ อานาปานสติภาวนา จำนวน ๒ ครั้ง (ครั้งที่ ๓ และ ๔) และเพ็ญภาวนาชาคริยานุโยค รวมเวลาทั้งสิ้น ๔๗ ชั่วโมง โดยผู้ที่สำเร็จหลักสูตรนี้ นอกจากจะดูแลจิตใจตนเองได้แล้ว ยังสามารถจะช่วยเหลือแนะนำผู้อื่นให้เข้าใจตนเองและคลายความทุกข์ลงได้อีกด้วย
ธรรมโฆษณ์ศึกษา | อานาปานสติภาวนา | กระบวนการ เรียนรู้ธรรม |
ความคาดหวัง |
อานาปานสติจากพระโอษฐ์ (๓ ชั่วโมง) |
เข้าถึงใจสร้างสุข (๖ ชั่วโมง) |
หมอดูใจ ๑ เกิดสัมมาทิฏฐิ ดูแลจิตใจตนเอง |
|
ชีวิตสุขเย็น มีได้ทันที เมื่อเข้าถึงใจ |
อานาปานสติวันอาทิตย์ครั้งที่ ๑,๒ (๘ ชั่วโมง) |
||
อริยสัจสี่ : ความจริงของชีวิต (๘ ชั่วโมง) (ธรรมโฆษณ์ศึกษา ๑๐๓) |
อานาปานสติวันอาทิตย์ ครั้งที่ ๓,๔ (๑๒ ชั่วโมง) |
หมอดูใจ ๒ เกิดสัมมาทิฏฐิ ดูแลจิตใจตนเองและผู้อื่น
|
|
ปฏิจจสมุปบาท : ความลึกซึ้งของจิตใจ |
เพ็ญภาวนาชาคริยานุโยค (๑๑ ชั่วโมง) |
||
โยนิโสมนสิการ : รุ่งอรุณแห่งปัญญา (๘ ชั่วโมง) (ธรรมโฆษณ์ศึกษา ๑๐๕) |
กิจกรรมในส่วนของธรรมโฆษณ์ศึกษามีเงื่อนไขในการเรียน คือ ต้องเริ่มจาก ธรรมโฆษณ์ศึกษา ๑๐๑ ก่อน จึงจะสามารถเรียนวิชาในลำดับถัดไป คือ ธรรมโฆษณ์ศึกษา ๑๐๒, ๑๐๓, ๑๐๔ และ ๑๐๕ ได้ตามลำดับ (โปรดดูตารางวันเวลาด้านล่างประกอบ เพื่อการวางแผนและตัดสินใจ) ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ สามารถเลือกเข้าร่วมได้ตามวันเวลาที่สะดวกของแต่ละกิจกรรมนั้น ๆ ซึ่งจัดเป็นประจำทุกเดือนหรือทุกสองเดือน
หลักสูตรแพทย์แผนใจมีความยืดหยุ่นในด้านของวันเวลาที่เลือกเรียน : ท่านสามารถเลือกเรียนในวันอังคาร หรือ วันเสาร์ หรืออาจเรียนสลับกันไป อาทิ เรียนธรรมโฆษณ์ ๑๐๑ ในวันอังคาร จบวันที่ ๑๐ ม.ค. แล้วต่อด้วย ธรรมโฆษณ์ ๑๐๒ วันเสาร์ เริ่มวันที่ ๔ ก.พ. เป็นต้น ตามความสะดวกของท่าน หรืออาจเลือกเรียนข้ามภาคการศึกษาก็ได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเรียนครบทั้งหมดในภาคการศึกษาเดียว เช่น เรียนธรรมโฆษณ์ ๑๐๑, ๑๐๒ ในภาคเรียนที่ ๑ แล้วต่อด้วยธรรมโฆษณ์ ๑๐๓ ๑๐๔ ๑๐๕ ในภาคเรียนที่ ๒
ภาคการศึกษาที่ ๑
กิจกรรม | วัน เวลา | วันที่ |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๑ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๒๐.๐๐ น. |
วันอังคารที่ ๑๗, ๒๔, ๓๑ มี.ค. และวันอังคารที่ ๗ เม.ย. ๖๓ |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๒ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๓ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๔ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๕ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๑ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. |
|
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๒ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. |
|
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๓ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๔ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๕ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. |
ภาคการศึกษาที่ ๒ ()
กิจกรรม | วัน เวลา | วันที่ |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๑ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. |
|
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๒ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๓ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๔ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๕ | อังคาร ๑๗.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๑ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. |
|
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๒ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๓ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๔ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. | |
ธรรมโฆษณ์ ๑๐๕ | เสาร์ ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. |
กลุ่มอยู่เย็นเป็นประโยชน์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ คุณวุฒิ ๐๘ ๑๘๓๕ ๔๕๙๕ (กรุณาโทรเฉพาะช่วงกลางวัน)